พระสมเด็จวัดระฆัง ทันอายุของ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังษี
ผ่านการตรวจสอบอายุจากห้องแลป ตามหลักการหาอายุวัตถุโบราณที่ใช้กันทั่วโลก
ผ่านการตรวจสอบทางธรรมชาติวิทยา และหาค่าอายุด้วยเทคนิควิทยาศาสตร์ (Luminescence Dating)
อายุองค์พระ 160-175 ปี
ตรงตามตำรานักสะสมพระเครื่องเมืองไทย ตรวจสอบอายุแล้วจากห้องแลป ตามหลักการหาอายุวัตถุโบราณทั่วโลก
พระสมเด็จวัดระฆัง ของแท้ มั่นใจได้แค่ไหน?
ในวงการพระเครื่องแล้วนั้น พระสมเด็จวัดระฆัง คือที่สุดของความสุดยอดที่ทุกคนปรารถนาจะได้ครอบครอง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถหาของแท้มาครอบครองได้ เพราะของแท้ หายากมาก ต้องผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญ (เซียนพระ) ที่มีประสบการณ์หลายปี ในการวิเคราะห์ความเป็นของแท้
การที่คุณจะซื้อพระเครื่อง ราคา หลักสิบล้าน สัก 1 องค์เพื่อมาครอบครอง นอกจากลักษณะของพระสมเด็จ จะตรงตามตำราที่ผู้เชี่ยวชาญ (เซียนพระ) ทั้งหลายตั้งเกณฑ์กันขึ้นมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วนั้น อาจไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจซื้อ พระสมเด็จวัดระฆัง
เพียงพอไหม แค่ความเห็น และ ใบรับประกันจากเซียนพระสมเด็จวัดระฆัง เพียงอย่างเดียว?
คุณอาจจะอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งถ้าพระสมเด็จวัดระฆังองค์นั้นได้ผ่านการพิจารณาและมีใบรับรองความเป็นพระแท้จากผู้เชี่ยวชาญ (เซียนพระ) ดังกล่าว แต่เราจะอุ่นใจได้อย่างไรว่า พระสมเด็จองค์นั้นมีอายุการสร้างที่ทันในสมัย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ยังมีชีวิตอยู่จริง?
จะดีกว่าไหม ถ้าเรามี วิธีการพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์สากล ที่ใช้ในการหาอายุของวัตถุโบราณทั่วโลก ควบคู่กับ ตำราจากบรรดาเซียนพระที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของนักสะสมและอนุรักษ์พระเครื่องเมืองไทย ที่นี่มีคำตอบให้ทุกท่าน พร้อมออกใบรับรอง มีมาตรฐานชัดเจน และประเมินราคาถูกต้องตามหลักสากล
สมัยนี้ไม่ต้องเกิดทันยุค ก็รู้อายุวัตถุโบราณได้ เพียงแค่เราตามทันเทคโนโลยี
ไม่ต้องเกิดยุคหิน ก็รู้อายุวัตถุโบราณได้ ด้วยเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ผ่านวิธี การเกิด เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์ ( Thermo Luminescence Dating)
เราคงเคยได้ยินข่าวคราวการค้นพบวัตถุโบราณที่มีอายุ 500 ปี บางชิ้นมีอายุถึง 1,000 ปี แต่สงสัยมั้ยว่าเขารู้ได้อย่างไรว่าวัตถุโบราณที่เขาค้นพบนั้นมีอายุเท่าไหร่ทั้งๆ ที่เราเกิดไม่ทันยุคนั้นสักหน่อย เราเลยจะพาไปดูวิธีการหนึ่งในการค้นหาอายุของวัตถุโบราณเหล่านั้นกัน
ปัจจุบันวิธีการค้นหาอายุของวัตถุโบราณนั้นมีหลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือวิธีการที่ชื่อว่า Thermo Luminescence Dating (TL) นั่นเอง ซึ่งวิธีนี้เป็นการใช้หาอายุของวัตถุโบราณประเภทเครื่องปั้นดินเผา เซรามิก หรือโบราณสถาน ที่ก่อสร้างด้วยอิฐหรือดิน ที่ผ่านการเผาไฟในระดับอุณหภูมิ 300 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือใช้กับตัวอย่างทางธรณีอื่นๆ เช่นควอร์ตในช่วงอายุ 200 – 300,000 ปี เป็นต้น
วิธีการ Thermo Luminescence Dating จะใช้หลักการที่ เมื่อวัตถุได้รับความร้อนสูงจะทำให้อิเล็กตรอนที่สะสมตัวอยู่เดิมถูกขับออกไป และวัตถุนั้นจะถูกกระตุ้นให้เกิดการสะสมอิเล็กตรอนใหม่ด้วยธาตุกัมมันตรังสีในธรรมชาติอย่าง ยูเรเนียม ทอเรียมและ โพแทสเซียม ตั้งแต่ตอนถูกเผาจนถึงเวลาที่นำมาตรวจสอบ จำนวนอิเล็กตรอนใหม่ที่เกิดจากการกระตุ้นนั้นจึงสัมพันธ์กับระยะเวลาและปริมาณกัมมันตรังสีที่สะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อมของยุคนั้น เราจึงหาอายุของวัตถุโบราณได้ด้วยปริมาณของอิเล็กตรอนที่สะสมใหม่เหล่านั้นนั่นเอง
บริษัท อมตะ สยาม (2017) จำกัด (ศูนย์พระเครื่องบารมีสมเด็จโต)
สถาบันตรวจสอบและวิจัยวัตถุโบราณ
AMATA SIAM SCIENCE CENTER (ASSC) นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของนักสะสมและอนุรักษ์พระเครื่องเมืองไทย วัตถุมงคล ที่นี่มีคำตอบให้ทุกท่าน พร้อมออกใบรับรอง มีมาตรฐานชัดเจน และประเมินราคาถูกต้องตามหลักสากล
พร้อมกับที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ผศ.ดร.ธิดารัตน์ วิชัยดิษฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์และการกำหนดอายุทางโบราณคดี และ ดร.ประกฤษฎ์ นพประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำหนดอายุทางธรณีวิทยาและโบราณคดี ใช้เทคนิคทางวิทยาศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ค่าอายุของตัวอย่างโบราณคดี ซึ่งประกอบด้วย เทคนิค Thermoluminescence dating และ Optically Stimulated Luminescence dating เพื่อวิเคราะห์ค่าปริมาณรังสีสะสม ร่วมกับเทคนิค Inductively coupled plasma mass spectrometry (ICP-MS) เพื่อวิเคราะห์ปริมาณรังสีต่อปีในตัวอย่าง ซึ่งนำไปสู่ค่าอายุของวัตถุโบราณ
เทคโนโลยีในการตรวจสอบหาอายุด้วยวิทยาศาสตร์นั้นมีหลาหลายวิธี โดยทาง บริษัท อมตะ สยาม (2017) จำกัด ได้ใช้เทคนิค Luminessence Dating ซึ่งเป็นเทคนิคที่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก
ภาพขั้นตอนการทำงานในห้อง Lab ของเจ้าหน้าที่อมตะสยาม
โดยนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเจ้าหน้าที่ RSO และอาจารย์ที่ปรึกษาจาก มหาวิทยาลัยทักษิณ คณะวิทยาศาสตร์ จึงมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้ผลการตรวจสอบที่ได้มาตราฐาน เชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับอย่างสากล ได้อย่างแน่นอน
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว อาจมีบางกลุ่มที่ยังตามไม่ทัน หากท่านได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งจากผู้เชี่ยวชาญ ท่านจะเข้าใจได้ว่าเทคโนโลยีนี้สามารถทำได้ในสิ่งที่ท่านคิดว่าท่านเองทำไม่ได้
รูปแบบการตรวจและค่าบริการ จะมีอยู่ 2 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
- ตรวจสอบด้วยหลักธรรมชาติวิทยา โดยส่องกล้องขยาย ดูเนื้อ ดูองค์ประกอบโดยรวมจากความชำนาญของผู้ตรวจ ตามตำราจากบรรดาเซียนพระที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
หากตรวจขั้นตอนนี้ผ่านแล้ว จึงจะตรวจด้วยขั้นตอนวิทยาศาสตร์ต่อไป
- ตรวจด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์จากเยอรมัน โดยการคำนวณหาค่าอายุพระ ด้วย ICPMS และ TL/OSL มีค่าใช้จ่าย องค์ละ 30,000 บาท (โดยนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการ) เฉพาะพระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน
ไม่ใช่ทุกองค์ ที่ผ่านการตรวจในขั้นตอนที่ 1 แล้วจะผ่านขั้นตอนที่ 2
ผมเอง มีพระสมเด็จที่ผ่านการตรวจในขั้นตอนที่ 1 จำนวน 5 องค์ แล้วนำมาตรวจในขั้นที่ 2 ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์จากเยอรมัน โดยการคำนวณหาค่าอายุพระ ด้วย ICPMS และ TL/OSL องค์ละ 30,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายแล้ว ไม่ต่ำกว่า 150,000 บาท
ปรากฏว่า มีเพียง 2 องค์ ที่ผลตรวจออกมา มีค่าอายุขององค์พระ 161+- 14 ปี ดังภาพด้านล่าง
นอกนั้นอีก 3 องค์ แม้จะมีลักษณะตรงตามตำราที่บรรดาเซียนพระใช้พิจารณากันมา แต่อายุการสร้าง ไม่ทันในสมัยที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มีชีวิตอยู่
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
เกิด: 17 เมษายน 2331
เสียชีวิตเมื่อ: 22 มิถุนายน 2415
2566 – 2415 = 151 ปี องค์พระที่ตรวจสอบหาอายุ ตามหลักมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก มีอายุ 161+-14 ปี จึงอยู่ในช่วงที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มีชีวิตอยู่
สะสม พระสมเด็จวัดระฆัง แบบไหนอุ่นใจกว่ากัน?
ระหว่าง พระสมเด็จวัดระฆัง 1 องค์ ราคา 30 ล้าน มีใบรับประกันจากสถาบันเซียนพระ กับ พระสมเด็จวัดระฆัง 1 องค์ ราคา 30 ล้าน มีใบรับประกันจากสถาบันเซียนพระ และ มีรายงาน อายุขององค์พระ โดยกระบวนการทางวิทยาศาตร์ที่ใช้กันทั่วโลก
“พระสมเด็จวัดระฆังของแท้ ควรจะแท้ตามหลักสากลของบรรดาเซียนพระเมืองไทย และ มีอายุทันในยุคที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ใช้กันทั่วโลก”